ข่าวดังเรื่อง พรากผู้เยาว์ (Takes away a minor) มีข้อกฎหมายใดเกี่ยวข้องบ้าง และแนวทางต่อสู้คดี | เล้งถนัดสอน

  มาตราอะไรบ้างที่อาจถูกน้ำมาใช้ในการพิจารณา คดี พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 แต่ไม่เกิน 18 ปี

| ผู้เยาว์อายุกว่า 15 แต่ไม่เกิน 18 ปี กรณีศึกษา

มาตรา 80 ผู้ใดลงมือกระทำความผิดแต่กระทำไปไม่ตลอด หรือกระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล ผู้นั้นพยายามกระทำความผิด ผู้ใดพยายามกระทำความผิด ผู้นั้นต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น

ตัวอย่าง คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2530
จำเลยชวนผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุ 4 ปีเศษไปดูการ์ตูนที่บ้านจำเลยแล้วพาไปนอนบนกระดาน ถอดกางเกงผู้เสียหายและจำเลยออก แล้วจำเลยใช้อวัยวะเพศดันไปตรงอวัยวะเพศของผู้เสีหายเพียงครั้งเดียว บริเวณอวัยวะเพศของผู้เสียหายไม่มีบาดแผล จำเลยไม่ได้กระทำซ้ำต่อไปเพื่อให้สำเร็จความใคร่ทั้ง ๆ ที่จำเลยมีโอกาสที่จะกระทำได้นับได้ว่าเป็นการยับยั้งเสียเองไม่กระทำการให้ตลอด จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก ประกอบด้วยมาตรา 80, 82

แม้ผู้เสียหายไม่มีช่องคลอด ผิดปกติแต่กำเนิด อันเป็นเหตุประกอบให้เห็นว่า โดยสภาพวัตถุที่มุ่งหมายกระทำต่อทำให้การกระทำของจำเลยไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ก็ตาม ก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยหยุดการกระทำต่อผู้เสียหายเพราะได้เห็น หรือทราบข้อเท็จจริงอันนี้ เมื่อจำเลยยับยั้งเสียเองได้ จำเลยก็ไม่ต้องรับโทษสำหรับการพยายามกระทำความผิดนั้นคงมีความผิดเท่าที่ต้องตามกฎหมายบัญญัติไว้เป็นความผิด คือกระทำอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279

มาตรา 278 ผู้ใดกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ตัวอย่าง คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4836/2547  คำว่า “อนาจาร” มีความหมายว่าเป็นการกระทำต่อเนื้อตัวบุคคลที่ไม่สมควรทางเพศซึ่งมิได้หมายความเฉพาะการประเวณีหรือความใคร่เท่านั้น แต่รวมถึงการกระทำให้อับอายขายหน้าในทางเพศด้วย การที่จำเลยกอดเอวโจทก์ร่วม จับมือและดึงแขนโจทก์ร่วมเช่นนั้นจึงเป็นการกระทำอนาจารแก่โจทก์ร่วมโดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 278 แม้บางตอนจำเลยจะได้กระทำขณะอยู่ในรถยนต์กระบะแต่การที่จำเลยจับมือและดึงแขนโจทก์ร่วมให้เข้าไปในห้องพักของโรงแรมขณะอยู่ต่อหน้าพนักงานโรงแรมเช่นนั้นเป็นการกระทำโดยเปิดเผยในที่ซึ่งอาจมีคนเห็นได้ แม้ไม่มีผู้ใดเห็นในขณะกระทำนั้นก็เป็นธารกำนัลแล้ว เพราะการกระทำต่อหน้าธารกำนัลมิได้หมายความเฉพาะแต่กระทำโดยประการที่ให้บุคคลอื่นได้เห็นโดยแท้จริงเท่านั้น เพียงแต่กระทำในลักษณะที่เปิดเผยให้บุคคลอื่นสามารถเห็นได้ก็เป็นต่อหน้าธารกำนัลแล้ว ดังนั้น เมื่อจำเลยกระทำอนาจารแก่โจทก์ร่วมโดยใช้กำลังประทุษร้ายต่อหน้าธารกำนัล จึงเป็นความผิดที่มิใช่ความผิดอันยอมความได้

มาตรา 283 ผู้ใดเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรมหรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 บาทถึง 40,000 บาท

ตัวอย่าง คำพิพากษาฎีกาที่ 1766/2558 แม้ในตอนแรก ต. จะเป็นคนพาผู้เสียหายที่ 2 ไปที่ห้องน้ำแต่ขณะจำเลยจะเข้าไปข่มขืนกระทำชำเรา ผู้เสียหายที่ 2 วิ่งหนีออกจากห้องน้ำเพราะคาดเดาได้ว่าจำเลยจะมาข่มขืนกระทำชำเราซึ่งผู้เสียหายที่ 2 ไม่ยินยอม จำเลยตามไปฉุดกระชากตัวผู้เสียหายที่ 2 กลับมาและข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายที่ 2 ในห้องน้ำที่เกิดเหตุจึงเป็นการพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 283 ทวิ วรรคสอง เมื่อขณะเกิดเหตุผู้เสียหายที่ 2 ยังอยู่ในความปกครองดูแลของผู้เสียหายที่ 1 ซึ่งเป็นมารดา การที่จำเลยฉุดกระชากผู้เสียหายที่ 2 ไปข่มขืนกระทำชำเราในห้องน้ำ ย่อมเป็นการกระทบกระเทือนต่ออำนาจปกครองของผู้เสียหายที่ 1 เพราะเป็นการแยกสิทธิปกครองของผู้เสียหายที่ 1 ในการควบคุมดูแลผู้เสียหายที่ 2 โดยปราศจากเหตุอันสมควร อันเป็นความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากผู้ปกครองอีกกระทงหนึ่งเพื่อการอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 วรรคสาม อีกกระทงหนึ่ง
มาตรา 318 ผู้ใดพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000 บาท ถึง 200,000 บาท

ผู้ใดโดยทุจริต ซื้อ จำหน่าย หรือรับตัวผู้เยาว์ซึ่งถูกพรากตามวรรคแรก ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้พรากนั้น ถ้าความผิดตามมาตรานี้ได้กระทำเพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000 บาท ถึง 300,000 บาท

อธิบายรายละเอียดของตัวบท

มาตรา 318 ในข้อบังคับแห่งกฎหมายไทยตามประมวลกฎหมายอาญา ได้ระบุกฎหมายที่เกี่ยวกับการพรากผู้เยาว์อายุมากกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปีจากพ่อ แม่ หรือผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยผู้เยาว์นั้นไม่ได้สมัครที่จะไปด้วย

โทษที่กำหนด: 

1. บุคคลที่กระทำการพรากผู้เยาว์จะถูกลงโทษด้วยการจำคุกตั้งแต่ 2 ปีถึง 10 ปี และ

2. ปรับตั้งแต่ 40,000 บาท ถึง 200,000 บาท

ข้อต่อสู่ฝ่ายโจทก์:

พิสูจน์ให้เห็นว่าโจทก์มิได้เต็มใจไปกับจำเลยแต่อย่างใด

ข้อต่อสู่ฝ่ายจำเลย:

พิสูจน์ให้เห็นจำเลยมิได้มีเจตนาจะพรากผู้เยาว์ และหรือ โจทก์ไม่รู้มาก่อนว่าจำเลยเป็นผู้เยาว์ที่มีอายุมากกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี

ตัวอย่าง คำพิพากษาฎีกา 210/2541 กรณีผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไป 

การที่จำเลยหลอกลวงผู้เสียหายว่าจะพาผู้เสียหายไปทำงานในร้านอาหารแต่กลับพาไปขายให้แก่ บ. เพื่อให้ค้าประเวณีจะนับว่าผู้เสียหายเต็มใจไปด้วยไม่ได้เพราะผู้เสียหายไม่ได้เต็มใจไปค้าประเวณีมาแต่ต้น แต่ไปกับจำเลยเพราะจำเลยหลอกลวงว่าจะพาไปทำงานที่ร้านขายอาหารของน้องสาวจำเลยและการที่จำเลยหลอกลวงผู้เสียหายแล้วพาผู้เสียหายไปขายให้แก่บ. เพื่อให้ค้าประเวณี ก็เป็นที่เห็นได้ว่า จำเลยมีเจตนาที่จะล่อผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารและเพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้อื่น โดยใช้อุบายหลอกลวงผู้เสียหาย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 283 วรรคสอง และมาตรา 318 วรรคสาม

มาตรา 319 ผู้ใดพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000 บาท ถึง 200,000 บาท

ผู้ใดโดยทุจริต ซื้อ จำหน่าย หรือรับตัวผู้เยาว์ซึ่งถูกพรากตามวรรคแรก ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้พรากนั้น

อธิบายรายละเอียดของตัวบท

มาตรา 319 ในประมวลกฎหมายอาญาจะมีความคล้ายคลึงกับ มาตรา 318 แต่มีความต่างตรงที่ความสมัครยินยอมของผู้เยาว์ให้พรากไปโดยมิได้มีการบังคับขู่เข็ญ

สำหรับคำว่า “อนาจาร” นั้นตามแนวคําพิพากษาศาลฎีกาและความเห็นของนักกฎหมาย สรุปไว้ว่า

อนาจาร หมายถึง การกระทําที่ไม่สมควรในทางเพศ หรือการกระทําให้อับอายขายหน้าในทางเพศโดยกระทำต่อเนื้อตัวร่างกายโดยตรง เช่น การฉุดแขนหญิง การกอด จูบ ลูบ คลํา หรือสัมผัสจับต้องเนื้อตัวร่างกาย เป็นต้น หรือการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดี การกระทำควรขายหน้าต่อธารกำนัล และไม่ได้หมายความเฉพาะความใคร่หรือการค้าประเวณีเท่านั้น แต่รวมถึงการทำให้อับอายขายหน้าในทางเพศด้วย โดยอาจจะไม่มีความมุ่งหมายในทางกามารมณ์ก็ได้

โทษที่กำหนด: 

1. บุคคลที่กระทำการพรากผู้เยาว์จะถูกลงโทษด้วยการจำคุกตั้งแต่ 2 ปีถึง 10 ปี และ

2. ปรับตั้งแต่ 40,000 บาท ถึง 200,000 บาท

ข้อต่อสู่ฝ่ายโจทก์:

พิสูจน์ให้เห็นว่าโจทก์มิได้เต็มใจไปกับจำเลยแต่อย่างใด หรือไม่ได้กระทำไปเพื่อหาประโยชน์จากจำเลย เช่น การขู่ว่าจะเปิดโปงความลับ blackmail ขู่ ขู่กรรโชกเอาทรัพย์หรือประโยชน์อย่างอื่น...

ข้อต่อสู่ฝ่ายจำเลย:

พิสูจน์ให้เห็นจำเลยมิได้มีเจตนาจะพรากผู้เยาว์ หรือ ได้รับการอนุญาตแล้วจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง ดูแล และหรือ โจทก์ไม่รู้มาก่อนว่าจำเลยเป็นผู้เยาว์ที่มีอายุมากกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี และหรือ จำเลยไม่ได้กระทำการอนาจารใดต่อโจทก์

ตัวอย่าง คำพิพากษา 2091/2527 ผู้เสียหายอายุ 17 ปี ขออนุญาตบิดาไปลอยกระทง  แล้วไปพบจำเลยตามที่จำเลยนัด  จำเลยพาไปร่วมประเวณีโดยผู้เสียหายเต็มใจไปด้วย ดังนี้เป็นการที่จำเลยพาผู้เสียหายไปในขณะที่อยู่ในความปกครองดูแลของบิดามารดา เมื่อจำเลยมีภริยาอยู่แล้ว กลับพาผู้เสียหายไปร่วมประเวณีรุ่งขึ้นก็พากลับไปส่งที่บ้าน แสดงว่าจำเลยมีเจตนาพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจาร จึงเป็นการพรากผู้เยาว์อายุ 17 ปี ไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์เต็มใจไปด้วย เป็นความผิดตาม ป.อ. ม.319 วรรคแรกแม้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตาม ม.318 ศาลก็ลงโทษจำเลยตาม ม.319 วรรคแรก ซึ่งมีโทษเบากว่าได้

     เกิดเหตุแล้วผู้เสียหายไปอยู่กินกับจำเลยไม่ยอมกลับไปอยู่กับบิดามารดาและไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ศาลรอการลงโทษได้

///

ขอให้โชคดีทุกท่าน กรุณากดShare กด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

สวัสดีครับ

ขอบคุณที่ติดตามบล็อกและเฟสบุคของ พี่ เล้งถนัดสอน


ช่วยกด Like กด Share จะได้ช่วยกันเผยแพร่ให้พวกๆเรากันเองครับ

สไลด์ดูแนวข้อสอบอื่นๆ

ความคิดเห็น