หลักสูตรวิชากฎหมาย การเรียน สอบ ค่าเทอม อาชีพและรายได้ในสายอาชีพ | ติววิชากฎหมาย

    ทำไมต้องเรียนวิชากฎหมาย สวัสดีครับเพื่อนๆวันนี้พบกับผม เล้งถนัดสอน อีกเช่นเคย กฎหมายมีความสำคัญมากในชีวิตประจำวัน แต่หากดูแบบผิวเผินอาจะไม่ทราบว่ากิจกรรมเกือบทุกอย่างที่ทำกันอยู่ในชีวิตประจำวันล้วนมีกฎหมายเข้ามาเกี่ยวด้วยเกือบทั้งสิ้น

การศึกษากฎหมายในระดับมหาวิทยาลัยส่วนมากจะนำเสนอทฤษฎีและหลักการพื้นฐานของกฎหมาย รวมถึงการศึกษากรณีศึกษาเพื่อเข้าใจการนำกฎหมายไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ

| ทำไมต้องเรียนสายกฎหมาย

วิชากฎหมายนั้น ผู้ที่ศึกษาจะใด้ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับระบบกฎหมายต่าง ๆ เช่น กฎหมายอาญา กฎหมายที่เกี่ยวกับธุรกิจและพาณิชย์ กฎหมายแพ่งและอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีการเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการทางกฎหมาย การเขียนเอกสารทางกฎหมาย และการแก้ไขปัญหาทางกฎหมายด้วยความเข้าใจในกระบวนการทางกฎหมายและหลักการกฎหมายต่าง ๆ อีกด้วย 

การศึกษาวิชากฎหมายส่วนใหญ่จะส่งเสริมทักษะในการวิเคราะห์ วิจารณ์ และการใช้ความรู้ทางกฎหมายในชีวิตประจำวันและในการทำงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง

ในระดับปริญญาตรีที่สอนในสาขากฎหมายมักจะประกอบด้วยวิชาหลากหลายที่ช่วยในการเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาที่ต้องการเข้าสู่วงการกฎหมายได้อย่างเต็มที่ อาจมีหลายวิชาดังนี้:

  • หลักสูตรวิชานิติศาสตร์

กฎหมายเบื้องต้น: ซึ่งรวมถึงเนื้อหาพื้นฐานเกี่ยวกับระบบกฎหมายและระบบยุทธศาสตร์ทางกฎหมายในประเทศ รวมถึงหลักการและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการจัดระบบกฎหมาย

กฎหมายแพ่ง: เน้นเรื่องของสัญญาและความรับผิดชอบต่าง ๆ ของฝ่ายในสัญญา

กฎหมายอาญา: การศึกษาเกี่ยวกับความผิดทางอาญาและระบบการพิจารณาคดีทางอาญา

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับระบบป้องกันอัคคีภัย: การศึกษาเกี่ยวกับความรับผิดในการละเมิดกฎหมายป้องกันอัคคีภัยและนโยบายที่เกี่ยวกับความปลอดภัย

กฎหมายที่เกี่ยวกับธุรกิจและพาณิชย์: เกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้า การทำธุรกิจ และการทำสัญญาทางธุรกิจ

กฎหมายที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ: การศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

การศึกษากรณี: การศึกษาและวิเคราะห์คดีต่าง ๆ เพื่อเข้าใจหลักการและการนำกฎหมายไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ

กฎหมายระหว่างประเทศ: การศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

หลักการกฎหมายและปรัชญา: เน้นทฤษฎีและหลักการในกฎหมายทั้งทางปฏิบัติและทฤษฎี

กฎหมายทางสาธารณสุข: ซึ่งเน้นการศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพของประชาชน และกฎหมายที่เกี่ยวกับการทำงานของระบบสาธารณสุข.

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมายทั่วไป

กฎหมายมหาชน

กฎหมายแพ่ง 1: บุคคล  นิติกรรม สัญญา

กฎหมายแพ่ง 2: หนี้  ละเมิด

กฎหมายว่าด้วยทรัพย์สิน

กฎหมายอาญา 1:  ภาคบทบัญญัติทั่วไป

กฎหมายอาญา 2: ภาคความผิด

กฎหมายแพ่ง 3: ครอบครัว มรดก

กฎหมายพาณิชย์ 1: ซื้อขาย เช่าทรัพย์ เช่าซื้อ

กฎหมายพาณิชย์ 2: ยืม ฝากทรัพย์ ตัวแทน ประกันภัย

กฎหมายพาณิชย์ 3: ประกันด้วยบุคคลและทรัพย์ ตั๋วเงิน

กฎหมายพาณิชย์ 4: หุ้นส่วน บริษัท

กฎหมายวิธีสบัญญัติ 1: หลักทั่วไปในวิธีพิจารณาความแพ่ง

กฎหมายวิธีสบัญญัติ 2: วิธีพิจารณาความแพ่งและกฎหมายล้มละลาย

กฎหมายวิธีสบัญญัติ 3: วิธีพิจารณาความอาญา

ประสบการณ์วิชาชีพกฎมาย

กฎหมายระหว่างประเทศ  

ภาษาอังกฤษสำหรับนักกฎหมาย

ระบบกฎหมายไทยและต่างประเทศ

กฎหมายกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม

กฎหมายแรงงาน

กฎหมายสิ่งแวดล้อม

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจ

กฎหมายภาษีอากร 1: ภาษีเงินได้

กฎหมายธุรกิจระหว่างประเทศ

การบริหารงานยุติธรรม

กฎหมายอาญา 3: ความผิดอาญาตามกฎหมายอื่น

สถาบันระหว่างประเทศ

กฎหมายสิทธิมนุษยชน

กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา

  • แนวข้อสอบวิชากฎหมาย

คำถามในรูปแบบการตอบคำถาม: ทดสอบความเข้าใจในกรณีศึกษา การวิเคราะห์กฎหมายและการนำความรู้ในกฎหมายไปใช้ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยทั่วๆไปจะประกอบด้วย

1 ข้อสอบแบบเขียนตอบ อัตนัยล้วน 4 ข้อ หรือ

2 ข้อสอบแบบเขียนตอบ อัตนัย 3 ข้อ และแบบฝนตัวเลือก ปรนัย 80 ข้อ

  • ค่าเทอมของหลักสูตรวิชากฎหมาย

ในแต่ละมหาวิทยาลัยค่าเทอมสามารถแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยและประเภทของหลักสูตรที่เลือกเรียน ราคาทุนการศึกษาทั่วไปของหลักสูตรระดับปริญญาตรีในสาขากฎหมายสามารถอยู่ในช่วงราคาที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของมหาวิทยาลัยและบรรยากาศการศึกษาที่เสนอ

สำหรับมหาวิทยาลัยรัฐที่เป็นราชการ ค่าเทอมสำหรับวิชากฎหมายที่มักจะแตกต่างกันไปตามมหาวิทยาลัยแต่มักอยู่ในช่วงราคาประมาณตั้งแต่ประมาณ 50,000 ถึง 200,000 บาทต่อเทอมต่อขึ้นไป โดยส่วนใหญ่บางส่วนของมหาวิทยาลัยรัฐอาจมีโควตาที่เฉพาะเจาะจงสำหรับนักศึกษาที่มีสิทธิ์รับทุนการศึกษาหรือมีผลประโยชน์ในด้านต่าง ๆ

ส่งท้ายด้วยการตรวจสอบหรือสอบถามกับมหาวิทยาลัยที่ต้องการเข้าศึกษา นอกจากค่าเทอมยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่นค่าหนังสือเอกสาร เครื่องมือเรียนการค้ำจ่ายและค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ ซึ่งอาจไม่รวมอยู่ในค่าเทอมพื้นฐานที่มหาวิทยาลัยกำหนดไว้

  • อาชีพสายกฏหมาย

ทนาย (Lawyer): ซึ่งเป็นคำแรกที่เกี่ยวข้องกับการปกครองความยุติธรรม ส่วนใหญ่ทนายจะดำเนินกิจกรรมในการให้คำปรึกษากฎหมายแก่ลูกค้า และแทนของลูกค้าในศาล ส่วนใหญ่แบ่งเป็นทนายความ (Litigation Lawyer) และทนายที่ไม่ไปศาล (Transactional Lawyer) โดยทนายความจะต้องแทนลูกค้าในศาล ส่วนทนายที่ไม่ไปศาลจะให้คำปรึกษาและเตรียมเอกสารทางกฎหมาย เช่น ทนายความอาจมีสาขาย่อยอื่น ๆ เช่น ทนายสำนักงาน ทนายสัญชาติเครื่องใช้ และอื่น ๆ

ผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมาย (Legal Consultant): ผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายทำหน้าที่ให้คำปรึกษาทางกฎหมายในหลายๆ สาขา โดยไม่จำเป็นต้องเป็นทนาย สามารถทำงานเป็นอิสระหรือที่บริษัทที่ต้องการคำปรึกษาทางกฎหมาย

นักธุรกิจที่เชี่ยวชาญทางกฎหมาย (Corporate Lawyer): มีความเชี่ยวชาญในกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ การทำสัญญา การจัดตั้งบริษัท การการเงิน และกิจกรรมธุรกิจอื่น ๆ

นักวิเคราะห์กฎหมาย (Legal Analyst): ทำการวิเคราะห์ทางกฎหมาย สำหรับบริษัทหรือองค์กร โดยการศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมขององค์กรและการใช้กฎหมายในเชิงยุทธศาสตร์

ผู้ประกอบวิชาชีพที่เชี่ยวชาญทางกฎหมาย (Legal Professionals in Specialized Fields): มีตำแหน่งเฉพาะทางในสาขาต่าง ๆ ของกฎหมาย เช่น ทนายอุตสาหกรรม ทนายอสัญกรรม ทนายที่ดิน และอื่น ๆ

พนักงานอัยการ: มีหน้าที่ปกป้องความเป็นธรรมและประโยชน์ของสังคมด้านกฎหมาย ซึ่งมีหน้าที่ในการดำเนินการคดีในศาลและแสดงความเห็นในคดีต่าง ๆ เพื่อให้ความยุติธรรมแก่ประชาชนและรักษาความเท่าเทียมทางกฎหมาย

ผู้พิพากษา: คือบุคคลที่ทำหน้าที่ในการพิจารณาและตัดสินคดีในศาล พวกเขามีอำนาจในการดำเนินการคดีตามกฎหมายและตัดสินคดีตามหลักธรรม ผู้พิพากษาจะต้องเป็นผู้รับมอบหมายตามกฎหมายและมีหน้าที่ที่สำคัญในการให้ความยุติธรรมแก่กฎการในการพิจารณาคดีที่เสนอขึ้นต่อพวกเขาในศาล

นิติกร: คือผู้ที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพทนาย หรือทนายความ ซึ่งมีสิทธิ์และหน้าที่ในการแทนลูกค้าในศาลและให้คำปรึกษาทางกฎหมายต่าง ๆ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายแก่ลูกค้า การเป็นนิติกรกำหนดโดยกฎหมายและสามารถแทนตนเองหรือผู้อื่นในทางกฎหมายได้ในศาล

นอกจากนี้ยังมีบทบาทอื่น ๆ ทางกฎหมายที่ความสำคัญ เช่น ผู้สื่อสารทางกฎหมาย ผู้บริหารสถาบันทางกฎหมาย และนักวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับอาชีพในสาขาอื่น ๆ ที่ต้องมีความรู้ในกฎหมายอีกด้วย

  • รายได้อาชีพด้านกฎหมาย

รายได้ของผู้ทำงานในอาชีพด้านกฎหมายมีความแตกต่างกันออกไปตามประสบการณ์ ระดับความเชี่ยวชาญ และที่ตั้งที่ทำงาน รวมถึงสาขาของกฎหมายที่ต่างกันด้วย

ทนายความหรือทนายสำนักงาน: รายได้ของทนายความจะแตกต่างตามประสบการณ์ ระดับความเชี่ยวชาญและลักษณะของคดีที่ได้รับมอบหมาย ทนายความที่มีประสบการณ์และชื่อเสียงมักมีรายได้สูงกว่า และอาจได้รับรายได้จากค่าครองชีพและค่าแสดงความคิดเห็นในศาล

นักธุรกิจที่เชี่ยวชาญทางกฎหมาย: รายได้ของผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายที่ทำงานในกิจกรรมธุรกิจมักมีค่าตอบแทนที่สูง โดยพวกเขาทำหน้าที่ในการป้องกันความเป็นธรรมและความเท่าเทียมในกิจกรรมทางธุรกิจ

อัยการ: รายได้ของผู้ทำงานในอัยการมักมีค่าตอบแทนที่ค่อนข้างคงที่มากจากการทำงานในศาลและปฏิบัติหน้าที่ทางกฎหมายเพื่อปกป้องสังคมและความยุติธรรม

รายได้ทั้งหมดขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความสามารถของบุคคล และสภาพการจ้างงานในท้องตลาดที่ต่างกันไป

  • องค์ประกอบสนับสนุนที่มีผลต่อรายได้อาชีพกฎหมาย

รายได้ของผู้ทำงานในอาชีพด้านกฎหมายมีการแปรผันและขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สาขาทางกฎหมายที่ปฏิบัติ ระดับความชำนาญ ประสบการณ์ และสถานที่ทำงาน นี่คือสิ่งหนึ่งที่สามารถมีผลต่อรายได้ของนักกฎหมาย:

ประสบการณ์และความชำนาญ: นักกฎหมายที่มีประสบการณ์และความชำนาญมากจะมีโอกาสที่จะได้รับรายได้สูงกว่า เนื่องจากพวกเขาสามารถให้คำปรึกษาและให้บริการทางกฎหมายในระดับสูงขึ้นและมีความเชี่ยวชาญในสาขาที่ควรเกี่ยวข้อง

สาขาทางกฎหมาย: สาขาทางกฎหมายที่ความร้อยเรียงและที่มีอุตสาหกรรมที่ขยายตัวอาจมีรายได้ที่สูงกว่า เช่น ทนายที่เชี่ยวชาญในธุรกิจหรือทนายที่เชี่ยวชาญในเอกสารทางกฎหมาย

ที่ตั้งของสถานที่ทำงาน: สถานที่ทำงานมีผลต่อรายได้ เนื่องจากค่าคุ้มครองชีวิตและค่าใช้จ่ายสามารถแตกต่างกันตามพื้นที่

ลักษณะของการจ้างงาน: รายได้ของนักกฎหมายที่ทำงานเป็นข้าราชการหรือในส่วนราชการอื่น ๆ อาจมีการกำหนดโดยค่าจ้างที่ปรากฏในข้อตกลงการจ้างงาน

ขนาดของสถานประกอบการ: นักกฎหมายที่ทำงานในสำนักงานที่มีขนาดใหญ่และมีรายได้มากอาจมีโอกาสที่จะได้รายได้สูงกว่า

ลักษณะของลูกค้า: รายได้ของนักกฎหมายอาจมีความผันผวนตามลักษณะของลูกค้าที่พวกเขาบริการ ลูกค้าที่มีการทางเงินที่สูงอาจทำให้นักกฎหมายได้รายได้มากขึ้น

ระดับขึ้นเป็นพันธมิตรหรือสถานศึกษาสูง: นักกฎหมายที่มีอำนาจในสถานศึกษาสูงหรือเป็นพันธมิตรในสำนักงานของพวกเขาอาจมีรายได้สูงกว่า

สภาพแห่งคดี: คดีที่ซับซ้อนและที่ต้องใช้เวลามากอาจมีค่าจ้างที่สูงกว่า

สรุปการศึกษาในระดับปริญญาตรีจะช่วยให้นักศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับกฎหมายทั้งในแง่ทฤษฎีและในการนำไปใช้ในสถานการณ์จริง เพื่อให้พร้อมที่จะทำงานในสาขาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายในอนาคต

ขอให้โชคดีทุกท่าน กรุณากดShare กด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ

สวัสดี

***
ขอบคุณที่ติดตามบล็อกและเฟสบุคของ พี่ เล้งถนัดสอน


ช่วยกด Like กด Share จะได้ช่วยกันเผยแพร่ให้พวกๆเรากันเองครับ

สไลด์ดูแนวข้อสอบอื่นๆ

ความคิดเห็น