ตัวอย่างข้อสอบกฏหมายอาญา 2 โจทย์นายเขียวชักสะพานไม้ข้ามคูเพื่อช่วยพี่ชายจากการถูกตามจับกุม มาตรา 138 | เล้ง นิติศาสตร์ มสธ

ตัวอย่างโจทย์ อาญา 2 (ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน)


   ส.ต.อ. ดวงเห็นนายทองวิ่งราวเงินแม่ค้า จึงวิ่งตามนายทองไป นายทองวิ่งหนีไปตามสะพานไม้ข้ามคูน้ำกว้างไปอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ส.ต.อ.ดวงวิ่งตามถึงคูน้ำฝั่งตรงข้าม ขณะนั้นนายเขียวน้องชายนายทองเดินผ่านมาพอดีต้องการช่วยพี่ชายจึงชักสะพานไม้ออกเสีย ทำให้ ส.ต.อ.ดวงข้ามคูน้ำไปจับนายทองไม่ได้

   ดังนั้น นายเขียวต้องรับผิดทางอาญาตามประมวลกฏหมายอาญาฐานใดหรือไม่ เพราะเหตุใด

แนวการตอบ

   ในกรณีตามปัญหา ปอ.(ม. 138) วางหลักไว้ว่า

    ผู้ใดต่อสู้ หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฏหมายในการปฏิบัติหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

   ถ้าการต่อสู้หรือขัดขวางนั้น ได้กระทำโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

   ต่อสู้ หมายถึง การกระทำใดๆอันเป็นการขัดขืนหรือโต้แย้งอำนาจของเจ้าพนักงาน แต่ไม่ถึงกับลงไม้ลงมือกับเจ้าพนักงาน

   ขัดขวาง หมายถึง การกระทำที่ก่อให้เกิดอุปสรรคหรือความยากลำบากในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน แต่ไม่ถึงกับขัดขืนไม่ให้บรรลุผลเสียทีเดียว เพียงทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานลำบากขึ้น

   จากข้อเท็จจริงตามปัญหา การที่ ส.ต.อ.ดวงเห็นนายทองวิ่งราวเงินแม่ค้า จึงวิ่งไล่ตามนายทองไปนั้น เห็นได้ว่า ส.ต.อ. ดวง เป็นเจ้าพนักงานซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าทีี่ นายทองวิ่งหนีไปตามสะพานไม้ข้ามคูน้ำกว้างไปอยู่อีฝั่งหนึ่ง ส.ต.อ.ดวงก็วิ่งตามไปถึงริมคูน้ำฝั่งตรงข้าม ขณะที่ ส.ต.อ.ดวงยังไม่ได้ข้ามสะพานตามนายทองไปนั้นเอง นายเขียวน้องชายนายทองเดินผ่านมาพอดีจึงคิดจะช่วยพี่ชาย โดยชักสะพานไม้ออก ทำให้ ส.ต.อ.ดวง ไม่สามารถข้ามคูน้ำไปจับนายทองได้ การกระทำของนายเขียวเช่นนี้ เห็นได้ว่าเป็นการทำให้เกิดอุปสรรคหรือความยากลำบากในการปฏิบัติหน้าที่ของส.ต.อ.ดวง ซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน ถือเป็นการขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่

   สรุป ดังนั้นนายเขียวต้องรับผิดทางอาญาฐานขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ตามหลักกฏหมายที่กล่าวมาข้างต้น

คำอธิบายเสริมพิเศษจากผู้เขียน

มาตรา 138 ภาคภาษาอังกฤษ

Section 138 Whoever, resisting or obstructs an official or a person required by law to assist such official in the due exercise of his functions, shall be punished with imprisonment not exceeding one year or fine not exceeding two thousand Baht, or both.


If such resistance or obstruction is committed by doing an act of violence or threatening to do an act of violence, the offender shall be punished with imprisonment not exceeding two years or fine not exceeding four thousand Baht, or both.


อธิบายขยายความตัวบทบัญญัติ


ดูคำว่า "ผู้ใด(Whoever)" และทำเครื่องหมายวงกลมล้อมรอบไว้ครับ ผู้ใด ก็คือ ใครๆได้ทั้งโลก ซึ่งถือว่าเป็นผู้กระทำความผิดในบทบัญญัติมาตรา 138 นี้

ต่อให้ขีดเส้นใต้คำว่า "ต่อสู้(Resisting)" ในที่นี้เป็นกริยาอาการหรือการกระทำ(Do หรือ Act)ที่ผู้กระทำได้กระทำลง และสิ่งที่ต้องจำก็คือ ต่อสู้ เป็น การกระทำที่หนึ่ง

ตัวอย่าง ต่อสู้ เช่น สะบัดมือ หรือ ดิ้นขณะตำรวจจับกุม

ต่อให้ขีดเส้นใต้คำว่า "ขัดขวาง(Obstruct)" ในที่นี้เป็นกริยาอาการหรือการกระทำ(Do หรือ Act)ที่ผู้กระทำได้กระทำลง แน่นอนครับ คำว่า ขัดขวาง เป็น การกระทำที่สอง

ตัวอย่าง ขัดขวาง เช่น ยิงปืนขึ้นฟ้าขู่มิให้ไล่จับ ดึงไม้กระดานทอดสะพานออกมิให้ตำรวจตามจับ หรือจากผู้อื่นสอดแทรกเข้าขัดขวาง เช่น กั้นกลางมิให้ตำรวจจับเพื่อนที่กระทำผิด เป็นต้น

*สรุปได้ว่าความผิดจะเกิดแก่ผู้ที่กระทำความผิดในมาตรานี้ไม่ว่าได้กระทำเพียงกรรมใดกรรมหนึ่งในสองกรรมนี้คือ ต่อสู้ หรือ ขัดขวาง ก็เข้าองค์ประกอบความผิดแล้ว

ไปกันต่อครับ คราวนี้ให้ทำเครื่องหมายสี่เหลี่ยมรอบคำว่า "เจ้าพนักงาน" และ "ผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฏหมาย" ในการปฏิบัติหน้าที่


อธิบายขยายความตัวโจทย์ตุ๊กตา


สิ่งที่ทำต่อไปนี้คือ จะต้องหา คำสำคัญ 3 คำในโจทย์ให้พบก่อน จากนั้นจะบอกต่อไปว่าจะเอาไปใช้ทำอะไรต่อไปครับ

1 ผู้กระทำ
2 กริยาอาการที่กระทำ และ
3 ผู้ถูกกระทำต่อหรือผู้ถูกกระทำ

ซึ่งก็ได้แก่

ผู้กระทำ = นายเขียว
กริยาอาการที่กระทำ = ชักสะพานข้ามคูน้ำออก
ผู้ถูกกระทำต่อหรือผู้ถูกกระทำ = ส.ต.อ.ดวง

จับคู่ คำทั้ง 3 เทียบกับบทบัญญัติ ซึ่งจะได้ผลดังนี้คือ

ผู้ใด = นายเขียว = นายเขียวมีเจตนาช่วยพี่ชายนายทอง
ต่อสู้หรือขัดขวาง = ชักสะพานข้ามคูน้ำ = ขัดขวางไม่ให้ ส.ต.อ.ดวงข้ามสะพานมจับนายทองได้
กระทำต่อ = ส.ต.อ.ดวง = เป็นเจ้าพนักงาน คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ คือ กำลังวิ่งไล่ติดตามเพื่อจับกุมนายทองคนร้ายวิ่งราวทรัพย์

ถ้าเพื่อนๆฝึกแยก keyword สำคัญๆและจับคู่กันได้ระหว่างโจทย์และบทบัญญัติ จากนั้นก็ทำการวินิจฉัยโจทย์ปรับเข้าไปหาตัวมาตราว่า match กันหรือไม่ครับ ถ้าจับคู่กันแล้วมันถูกต้องตรงกัน ก็ถือว่าเกิดความผิดตามตัวบทกฏหมายที่บัญญัติไว้นั่งเองครับ


ถ้าเพื่อนๆคิดว่าข้อความรู้วันนี้ดี ช่วย share ต่อให้ด้วยครับ

แล้วพบกันใหม่ครับ

สวัสดีครับ

ขอให้เพื่อนโชคดีได้ H กันทุกๆคนนะครับ




ช่วยกด Like กด Share จะได้ช่วยกันเผยแพร่ให้พวกๆเรากันเองครับ

ความคิดเห็น