เขียนหนังสือมอบอำนาจช่วงอย่างไรให้ได้คะแนนสูง สอบตั๋วทนายความผ่านชัวร์
สวัสดีครับ ว่าที่ทนายความทุกท่าน! การสอบตั๋วทนายความถือเป็นด่านสำคัญที่ต้องฝ่าไปให้ได้ และหนึ่งในข้อสอบที่หลายคนอาจมองข้าม แต่กลับเป็นตัวตัดสินคะแนนได้เลยก็คือ "การเขียนหนังสือมอบอำนาจช่วง" นั่นเองครับ
สังเกตุ:
หนังสือมอบอำนาจ = Power of Attorney
หนังสือมอบอำนาจช่วง = Sub-Power of Attorney
เนื่องจากการสอบคราวที่ผ่านมาเร็วๆนี้ ทางสภาทนายความได้ออกข้อสอบอัตนัยเรื่อง การเขียนหนังสือมอบอำนาจ (10 คะแนน) รุ่นนี้มีผู้สอบไม่ผ่านหลายคน ซึ่งเป็นที่ฮือฮากล่าวขานกันอย่างมาก และมีการหยิบยกมาสอนในรุ่นต่อๆมา
วันนี้ "เล้งติวกฎหมาย" จะมาไขข้อข้องใจและแนะแนวทางการเขียนหนังสือมอบอำนาจช่วงให้เป๊ะปัง ได้คะแนนสูง พร้อมลุยสนามสอบอย่างมั่นใจ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย!
ก่อนเข้าเนื้อหาสำคัญ เรามาทำความรู้จักหนังสือมอบอำนาจช่วงกันก่อนครับ
1) ผู้รับมอบอำนาจช่วงเป็นบุคคที่ 3 ในการกระทำการแทนบุคคลที่ 2
2) ผู้รับมอบอำนาจ(จากตัวจริง)เป็นบุคคที่ 2 ในการกระทำการแทนบุคคลที่ 1
3) ผู้มอบอำนาจตัวจริงป็นบุคคที่ 1 ให้กระทำการแทน
คงไม่งงนะครับ! ลำดับจากบุคคลที่ 1 👉 บุคคลที่ 2 👉 บุคคลที่ 3
หนังสือมอบอำนาจช่วงคืออะไร และสำคัญอย่างไร?
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า "หนังสือมอบอำนาจช่วง" คืออะไร ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 808 บัญญัติว่า "ตัวแทนต้องทำการด้วยตนเอง เว้นแต่จะมีอำนาจใช้ตัวแทนช่วงทำการได้"
พูดง่ายๆ ก็คือ โดยหลักแล้วผู้รับมอบอำนาจ (ตัวแทน) ต้องดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายมาด้วยตัวเอง แต่หากหนังสือมอบอำนาจฉบับแรกได้ให้อำนาจไว้ หรือโดยสภาพแห่งกิจการนั้นสามารถตั้งตัวแทนช่วงได้ ผู้รับมอบอำนาจก็สามารถทำ "หนังสือมอบอำนาจช่วง" เพื่อมอบหมายงานนั้นต่อไปให้บุคคลอื่นทำแทนได้อีกทอดหนึ่ง
ในการสอบตั๋วทนาย ข้อสอบมักจะจำลองสถานการณ์ให้เราในฐานะทนายความได้รับมอบอำนาจจากลูกความมาแล้ว และจำเป็นต้องมอบอำนาจช่วงให้ทนายความอีกคนหนึ่ง หรือเสมียนทนายไปดำเนินการบางอย่างแทน เช่น ไปยื่นฟ้อง ไปคัดถ่ายเอกสาร หรือไปรับเงินจากศาล เป็นต้น การเขียนหนังสือมอบอำนาจช่วงให้ถูกต้องครบถ้วนตามแบบฟอร์มของสภาทนายความจึงสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนั่นหมายถึงคะแนนที่จะทำให้เราสอบผ่านนั่นเองครับ
โครงสร้างและองค์ประกอบสำคัญที่ห้ามพลาด!
การเขียนหนังสือมอบอำนาจช่วงเพื่อให้ได้คะแนนดีนั้น จะต้องมีองค์ประกอบสำคัญครบถ้วน ดังนี้
ชื่อเอกสาร: ระบุให้ชัดเจนตรงกลางหน้ากระดาษว่า "หนังสือมอบอำนาจช่วง"
สถานที่และวันที่ทำเอกสาร: "ทำที่..." และ "วันที่..." เป็นองค์ประกอบที่สำคัญมาก หากไม่มีถือว่าไม่สมบูรณ์
ข้อมูลผู้มอบอำนาจช่วง: คือตัวเรา (ทนายความผู้รับมอบอำนาจคนแรก) ต้องระบุชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ และรายละเอียดอื่นๆ ให้ครบถ้วน โดยอ้างอิงจากหนังสือมอบอำนาจฉบับแรกที่ได้รับจากลูกความ
ข้อมูลผู้รับมอบอำนาจช่วง: คือบุคคลที่เราจะมอบอำนาจต่อไป (อาจเป็นทนายความอีกคน หรือเสมียนทนาย) ต้องระบุชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ ให้ชัดเจนเช่นกัน
ข้อความมอบอำนาจ: ส่วนนี้คือหัวใจสำคัญ ต้องระบุให้ชัดเจนว่ามอบอำนาจให้ไปทำอะไรบ้าง โดยต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจที่ได้รับมาจากหนังสือมอบอำนาจฉบับแรก ห้ามเขียนเกินขอบเขตโดยเด็ดขาด!
ตัวอย่าง: "ข้าพเจ้า... ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจาก [ชื่อลูกความ] ตามหนังสือมอบอำนาจฉบับลงวันที่... ขอมอบอำนาจช่วงให้ [ชื่อผู้รับมอบอำนาจช่วง] เป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนข้าพเจ้าในการ..."
ขอบเขตอำนาจที่มอบ: ต้องระบุให้ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง เช่น
"ให้มีอำนาจยื่นฟ้อง [ชื่อจำเลย] ต่อศาล..."
"ให้มีอำนาจคัดถ่ายคำพิพากษาและเอกสารทั้งหมดในสำนวนคดีหมายเลขดำที่..."
"ให้มีอำนาจรับเงินค่าธรรมเนียมศาลคืนจากศาล..."
และที่สำคัญมากคือ ต้องมีข้อความว่า "ตลอดจนให้มีอำนาจกระทำการอื่นใดที่เกี่ยวข้องจนกว่าจะเสร็จการ" เพื่อให้ครอบคลุมการดำเนินการที่จำเป็น
คำรับรองของผู้มอบอำนาจช่วง: ข้อความที่ว่า "กิจการใดที่ผู้รับมอบอำนาจช่วงได้กระทำไปภายใต้ขอบเขตแห่งการมอบอำนาจนี้ ให้ถือเสมือนว่าข้าพเจ้าได้กระทำด้วยตนเองทุกประการ"
ลายมือชื่อ: ต้องมีลายมือชื่อของผู้มอบอำนาจช่วง ผู้รับมอบอำนาจช่วง และพยานอย่างน้อย 2 คน (ถ้ามี) พร้อมพิมพ์ชื่อเต็มในวงเล็บ
เคล็ดลับคว้าคะแนนสูง
อ่านโจทย์ให้แตก: วิเคราะห์ให้ดีว่าใครคือผู้มอบอำนาจ ใครคือผู้รับมอบอำนาจ และขอบเขตอำนาจที่ให้ทำมีอะไรบ้าง
อ้างอิงฉบับแรกเสมอ: อย่าลืมอ้างถึงหนังสือมอบอำนาจฉบับแรกที่ได้รับจากลูกความ เพื่อแสดงที่มาของอำนาจ
ความสะอาดและเป็นระเบียบ: เขียนด้วยลายมือที่อ่านง่าย สะอาดเรียบร้อย ไม่มีรอยขูดลบขีดฆ่า
ติดอากรแสตมป์: แม้ในการสอบจริงจะไม่มีอากรแสตมป์ให้ติด แต่การเขียนระบุไว้ในหนังสือมอบอำนาจว่า "ปิดอากรแสตมป์ 10 บาท" หรือ "30 บาท" (แล้วแต่กรณี) จะแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในหลักกฎหมายและทำให้ได้คะแนนเพิ่ม
หนังสือมอบอำนาจช่วง
ทำที่ สำนักงานธรรมะทนายความ
เลขที่ 249 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร
เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2567
โดยหนังสือฉบับนี้ ข้าพเจ้า บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยนายทักษิณ จันทรา ผู้รับมอบอำนาจ สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 999 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ขอมอบอำนาจช่วงให้ นายอุดร นภาลัย เป็นตัวแทนรับมอบอำนาจของข้าพเจ้าและให้มีอำนาจดังต่อไปนี้ คือ
ข้อ 1 ฟ้องร้องดำเนินคดีกับ นายขาว เหลืองงาม ในข้อหาหรือฐานความผิด ละเมิด รับช่วงสิทธิ เรียกค่าเสียหาย ประกันภัย ต่อศาลที่มีเขตอำนาจเหนือคดีนี้
ข้อ 2 ดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ ไปในทางจำหน่ายสิทธิของข้าพเจ้าได้ เช่น การยอมรับตามที่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเรียกร้อง การถอนฟ้อง การประนีประนอมยอมความ การใช้สิทธิ หรือสละสิทธิในการอุทธรณ์ หรือฎีกา หรือในการขอให้พิจารณาคดีใหม่
ข้อ 3 ให้มีอำนาจรับเงิน เอกสารต่างๆ ทรัพย์สินใดๆ เงินค่าฤชาธรรมเนียม เงินค่าทนายความที่ศาลสั่งคืน หรือเงินอื่นๆ จากศาล หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง หรือจากคู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง จากกรมบังคับคดี จากสำนักงานวางทรัพย์กระทรวงยุติธรรม แทนข้าพเจ้าได้
กิจการใดๆ ที่ นายอุดร นภาลัย ผู้รับมอบอำนาจ ได้กระทำไปแทนข้าพเจ้าตามหนังสือมอบอำนาจฉบับนี้ ข้าพเจ้ายอมรับผิดชอบเสมือนเป็นการกระทำของข้าพเจ้าเองทุกประการ เพื่อเป็นหลักฐานจึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยาน
ลงชื่อ.................................................................ผู้มอบอำนาจ
(นายทักษิณ จันทรา)
ลงชื่อ.................................................................ผู้รับมอบอำนาจ
(นายอุดร นภาลัย)
ลงชื่อ.................................................................พยาน
(นายรัก ความดี)
(ปิดอากรแสตมป์)
แบบทดสอบ: ทบทวนความเข้าใจเรื่องหนังสือมอบอำนาจช่วง (5 ข้อ)
ลองมาทดสอบความเข้าใจกันหน่อยครับ ว่าที่คุณทนายพร้อมแค่ไหนแล้ว!
บุคคลใดคือ "ผู้มอบอำนาจช่วง"?
หากหนังสือมอบอำนาจฉบับแรกไม่ได้ให้อำนาจไว้ จะตั้งตัวแทนช่วงได้หรือไม่?
ข้อใดคือองค์ประกอบที่ ไม่จำเป็น ต้องมีในหนังสือมอบอำนาจช่วง?
การมอบอำนาจให้ "ดำเนินคดีแทนจนถึงที่สุด" ถือเป็นการมอบอำนาจเฉพาะการหรือไม่?
หากลืมลงวันที่ในหนังสือมอบอำนาจช่วง จะมีผลอย่างไร?
Tips ในการตรวจคำตอบ:
ย้อนกลับไปอ่านเนื้อหาในบทความอีกครั้งเพื่อทบทวน
ลองร่างหนังสือมอบอำนาจช่วงจากโจทย์สมมติ แล้วนำมาเทียบกับโครงสร้างที่ให้ไว้
หัวใจสำคัญคือ "ขอบอำนาจ" ต้องไม่เกินจากที่ได้รับมอบหมายมา และต้อง "ระบุให้ชัดเจน" ว่าให้ทำอะไร
สรุปส่งท้าย
การเขียนหนังสือมอบอำนาจช่วงไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องอาศัยความเข้าใจในหลักการและความรอบคอบในการร่างเอกสาร หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้ทุกท่านเตรียมตัวสอบตั๋วทนายได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้นนะครับ
หากชื่นชอบบทความนี้ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ และติดตามเพจ "เล้งติวกฎหมาย" เพื่อไม่พลาดสาระดีๆ และเทคนิคการเตรียมสอบกฎหมายที่เข้าใจง่ายและใช้ได้จริง ขอบคุณครับ!
อ่านเพิ่ม:
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น